วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

D-Berry : D-Berry

D-Berry : D-Berry: D-Berry เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ประกอบด้วยไซเลี่ยม ฮัสค์ ไฟเบอร์ สามารถพองตัวได้ 25 เท่าของน้ำหนักตัว ทำให้อิ่มเร็ว รับประทาน สมุนไพรสกัด ด้ว...

คอลลาเจนสด (Native Soluble Collagen) กับความงามและสุขภาพ

คอลลาเจนสด กับ ความงาม และ สุขภาพ

Posted 7 Feb 2012
bigstockphoto คอลลาเจนสด กับ ความงาม และ สุขภาพ

คอลลาเจนสด (Native Soluble Collagen) กับความงามและสุขภาพ

คอลลาเจน นับเป็นสารสำคัญที่ถูกกล่าวขวัญถึงในแวดวงสุขภาพและความงามอย่างมาก คอลลาเจน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วร่างกาย โดยเป็นองค์ประกอบประมาณ 35% ของโปรตีนทั้งหมด มีลักษณะเป็นสายโพลีเปปไทด์ขดเกลียวจำนวน 3 สายพันรวมกัน
คอลลาเจน เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง โดยประสานกันเป็นเส้นใยอยู่ในชั้นผิวหนังแท้ ช่วยเสริมความเรียบตึงร่วมกับเคอราติน นอกจากนี้คอลลาเจนยังเป็นส่วนประกอบของอวัยวะต่างๆ อาทิ กระดูก กระดูกอ่อน ข้อต่อ เส้นเอ็น ฟัน ผม หลอดเลือด เป็นต้น
เมื่อวัยเพิ่มขึ้น หรือผจญกับมลภาวะมากขึ้น คอลลาเจนในร่างกายมักจะลดลง และสร้างเสริมไม่ทัน เพราะในอาหารที่เรารับประทานนั้นมีคอลลาเจนอยู่ไม่มาก การเสื่อมสภาพของคอลลาเจนจะส่งผลให้ผิวพรรณเกิดริ้วรอยหยาบกร้าน และกระดูกและข้อเสื่อมสภาพลงได้
คอลลาเจนสด คืออะไร
คอลลาเจนสด หรือ คอลลาเจนแท้ (Native Soluble Collagen) คือ คอลลาเจนที่มีโครงสร้างโมเลกุลครบ 3 สาย (Triple Helix) จึงสามารถคืนสภาพกลับเป็นเส้นใยคอลลาเจนที่สมบูรณ์ได้ การสกัดคอลลาเจนสด ต้องใช้กระบวนการพิเศษที่ใช้ความเย็น 4-8 องศาเซลเซียส เรียกว่า “การสกัดเย็น” (Cold Extraction) เพื่อรักษาโครงสร้างของคอลลาเจน ในการผลิตจะต้องควบคุมเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรคต่างๆ

คุณสมบัติเด่นๆ ของ คอลลาเจนสด

มีความสามารถทางชีวะเคมีครบถ้วน มีการทดลองระบุว่า คอลลาเจนสด เป็นคอลลาเจนชนิดที่สามารถคืนสภาพได้ใหม่เมื่อละลายในน้ำ เนื่องจากยังมีโครงสร้างครบ 3 สาย การทดสอบคอลลาเจนสดสามารถทำได้โดยการทำให้คอลลาเจนสดมีความเข้มข้นของเกลือ ที่ความเข้มข้น 1 โมล (Salting Out Method) สารละลายเกลือจะไปดึงน้ำออกจากโมเลกุลของคอลลาเจนสด หากเป็นคอลลาเจนสดที่มีโมลุล 3 สายที่มีประจุอยู่บนโมเลกุล จะเกิดการรวมตัวกันเป็นเส้นใยสีขุ่นในสารละลาย ซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ทนต่อการทำลายโดยน้ำย่อย เนื่องจากมีโครงสร้างทางชีวะเคมีที่สมบูรณ์ คอลลาเจนสดจึงเป็นคอลลาเจนชนิดที่ทนต่อการย่อยของเอนไซม์ทริปซินหรือไคโมทริ ปซิน (ทำหน้าที่ย่อยโปรตีน) ในกระเพาะอาหารและลำไส้
ดูดซึมเข้าไปใช้ประโยชน์ในร่างกายได้ โดยมีการวิจัยระบุว่า คอลลาเจนสดที่รับประทานและผ่านการย่อยแล้ว เป็นคอลลาเจนชนิดที่สามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้อย่างรวดเร็วและครบ ถ้วน โดยเกือบทั้งหมดของคอลลาเจนสดจะถูกดูดซึมก่อนที่จะไปถึงลำไส้ใหญ่ โดยที่แบคทีเรียในลำไส้ใหญ่จะไม่มีผลต่อการย่อยคอลลาเจนสด
สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ คอลลาเจนสดสามารถซึมผ่านเข้าสู่ผิวหนังในชั้นลึกได้โดยผ่านผิวหนังโดยตรง ผ่านทางต่อมเหงื่อ และผ่านรูขุมขน
เสริมความยืดหยุ่นและชุ่มชื้นของผิวหนัง โดยมีผลการศึกษาระบุว่า การใช้สารละลายคอลลาเจนแท้ในภาวะที่เป็นกรด (Acid Soluble Collagen) สามารถช่วยให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่นและชุ่มชื้นขึ้น เนื่องจากคอลลาเจนสดสามารถช่วยชะลอโครงสร้างของผิวชั้นหนังแท้ ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และช่วยลดการระคายเคืองของผิวพรรณได้อีกด้วย
มีความสามารถในการสมานแผล ล่าสุดจึงมีการนำคอลลาเจนสดมาประยุกต์เป็นแผ่นคอลลาเจนสด เพื่อใช้ในการรักษาบาดแผลชนิดต่างๆ การวิจัยพบว่าใช้ได้ดีกับแผลไฟไหม้ระยะที่ 1 และ 2 โดยใช้เป็นผิวหนังเทียม เนื่องจากแผ่นคอลลาเจนสดช่วยไม่ให้เกิดการอักเสบของแผล แผลสมานเร็ว และมีแผลเป็นน้อยที่สุด อีกทั้งไม่พบว่าถูกต่อต้านหรือปฏิเสธจากระบบร่างกาย
มีความสามารถในการบำรุงกระดูก เนื่องจาก คอลลาเจนสด เป็นคอลลาเจนชนิดที่สามารถกระตุ้นการสร้างเซลล์กระดูกและกระดูกอ่อนได้

คอลลาเจนสดกับผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม

ปัจจุบันมีการนำ คอลลาเจนสด มาเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว โดยใช้ในปริมาณ 1-2% นอกจากนี้ยังมีการผลิตคอลลาเจนสดออกมาในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาทิ คอลลาเจนพร้อมดื่ม รับประทานง่าย ซึ่งตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี
คอลลาเจนสด สามารถผลิตได้จากสัตว์หลายชนิด แต่ในปัจจุบันมีผู้สนใจ คอลลาเจนสดที่สกัดจากหอยเป๋าฮื้อ กันมาก เนื่องจาก มีงานวิจัยพบว่า คอลลาเจนสดจากหอยเป๋าฮื้อ สามารถเพิ่มจำนวนเซลล์ในการเจริญเติบโต เพิ่มความสมบูรณ์ของจำนวนเซลล์ รวมทั้งการเรียงตัวของเซลล์ได้ดีกว่าคอลลาเจนสดจากวัว
จากการศึกษาโดยการทดลองเพาะเลี้ยงเซลล์ (Cell Culture) โดยใช้เซลล์ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมาเพาะเลี้ยงในห้อง 3 กลุ่ม กลุ่มที่หนึ่งถูกควบคุมไม่ให้เติมคอลลาเจนใดๆ กลุ่มที่สองได้มีการเติมคอลลาเจนสดจากวัว ส่วนกลุ่มที่สามได้เติมคอลลาเจนสดจากหอยเป๋าฮื้อ ปริมาณ 10 µg / cm2 เมื่อครบกำหนด 23 วันพบว่าเซลล์ที่เติมคอลลาเจนสดจากหอยเป๋าฮื้อมีการเพิ่มจำนวนเซลล์ได้ มากกว่า รวมทั้งมีความสมบูรณ์และการเรียงตัวของเซลล์ (Exhibit greater organization) ดีกว่าเซลล์ที่เติมคอลลาเจนจากวัวและเซลล์ที่ไม่ได้เติมคอลลาเจนอย่างมีนัยยะสำคัญ

Sucralose

Sucralose
สารแทนความหวานที่ดีที่สุดและเป็นธรรมชาติที่สุดก็คือหญ้าหวาน จะหายากหรือง่ายผมไม่ทราบ (แต่คิดว่าหาของแท้ค่อนข้างยากราคาค่อนข้างสูงด้วย) แต่ก็ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานนะครับเพราะความหวานจากหญ้าหวานก็ยังทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดสูงได้

ฟรุคโตสเป็นน้ำตาลธรรมชาติที่ส่วนใหญ่จะได้จากผลไม้ มีลักษณะคือย่อยช้า (กลูโคสจะย่อยเร็วที่สุด) ดังนั้นการทานผลไม้จึงดีต่อสุขภาพเพราะได้ความหวานที่เป็นธรรมชาติจริงๆ แต่ก็อีกนั่นแหละคนเป็นเบาหวานทานมากไม่ได้เพราะฟลุคโตสก็ยังทำให้น้ำตาลในเลือดสูงได้อยู่ดี คนเป็นเบาหวานจึงต้องกินน้ำตาลฟลุคโตสด้วยความระมัดระวังด้วยการเลือกชนิดของผลไม้ที่หวานไม่มาก

กลูโคสเป็นน้ำตาลโมเลกุลเล็กที่ย่อยเร็วมาก ผ่านเข้าสู่ระบบเลือดได้ตั้งแต่อยู่ในปากเลยทีเดียว นอกจากนั้นกลูโคสก็จะทำให้การย่อยเสร็จสิ้นโดยเร็ว ร่างกายจึงอยู่ในสถานะที่ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นเร็วและลงเร็ว น้ำตาลชนิดนี้กินมากไม่ดีทำให้เป็นเบาหวานได้ง่ายๆ ยิ่งคนเป็นเบาหวานอยู่แล้วควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด กลูโคสก็ได้แก่น้ำตาลทรายขาว ไอสกรีมทั่วไป แป้งขัดขาวรวมทั้งข้าวขาว เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมหวานต่างๆ รวมทั้งน้ำอัดลม เป็นน้ำตาลที่คนรักสุขภาพควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง

แอสปาแตม เป็นน้ำตาลเทียมที่ทำจากสารเคมีเป็นส่วนใหญ่ ใช้แทนความหวานให้กับผู้ป่วยโรคเบาหวานได้เพราะตัวแอสปาแตมไม่มีพลังงานจึงไม่มีผลทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นในผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน แต่มีข้อเสียคือความเป็นสารเคมีเมื่อบริโภคไปนานๆอาจให้ผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวโดยเฉพาะตับจะสะสมสารเคมีมากซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพ อาจทำให้ตับเสื่อมลงจนป่วยเป็นอะไรได้โดยไม่ทราบสาเหตุนะครับ จึงไม่ควรประมาทเมื่อทานแอสปาแตมแทนความหวานบ่อยๆ

ซูคราโลส เป็นสารให้ความหวานที่ไม่มีพลังงานเพราะใช้น้อยมาก 1 ส่วนของซูคราโลสให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทรายขาวประมาณ 600 เท่า ดังนั้นถ้าชงกาแฟ 1 ถ้วยถ้าใช้น้ำตาลทรายขาว 2 ช้อนชาก็จะให้ความหวานเท่ากับซูคราโลส 0.00333 ช้อนชา (ก็คงประมาณน้ำตาลทรายขาวเพียง 5 เม็ดเท่านั้นเอง) ซูคราโลสเป็นสารให้ความหวานที่ปลอดภัยถึงแม้จะเป็นเคมีแต่ก็เป็นเคมีที่ไม่มีสารสะสมในร่างกายเนื่องจากขบวนการผลิตองค์การอนามัยโลกยอมรับเป็นทางการแล้วว่ามีความปลอดภัยเทียบเท่าน้ำตาลจากธรรมชาติ เดี๋ยวนี้น้ำอัดลมบางยี่ห้อก็ใช้ความหวานจากซูคราโลสจึงโฆษณาว่าดื่มแล้วไม่อ้วนไงครับ และยังนิยมใช้ซูคราโลสให้ความหวานกับขนม ชา กาแฟที่โฆษณาว่าดื่มเพื่อลดความอ้วนเพื่อสุขภาพ เป็นต้น

สิ่งที่ควรระวังเกี่ยวกับสารเพิ่มความหวานซูคราโลสก็คือคุณธรรมของผู้ผลิตว่าใช้ซูคราโลสจริงหรือเปล่า เพราะเห็นว่ามีบางผลิตภัณฑ์ตบตาผู้บริโภคโดยใช้แอสปาแตมแทนความหวานแต่บอกว่าเป็นซูคราโลสก็มีไม่น้อย ผมว่าเรื้องนี้ไม่เข้าใครออกใครเพราะมันเป็นการเพิ่มต้นทุนมากที่เดียว (ซูคราโลสแพงกว่าแอสปาแตมหลายสิบเท่า) ปกติซูคราโลสแท้ๆที่ผลิตในอเมริกาหรือยุโรปที่ได้มาตรฐานจริงๆราคา กก.ละเกือบ 2 หมื่นบาท สั่งซื้อแต่ละครั้งก็ต้องยกกระสอบใหญ่ 50 กก. ตกแล้วประมาณ 1 ล้านบาทนะครับ ในอินเดีย หรือจีนก็มีโรงงานผลิตซูคราโลสเหมือนกันราคาถูกกว่ามากแต่คุณภาพผมไม่แน่ใจจึงไม่กล้าใช้ ซีเกรนโปรของเราเคยผลิตรุ่นรสหวานกลมกล่อมมาแล้วโดยใช้ซูคราดลสจากอเมริกา ปรากฎว่าต้นทุนของซูคราโลสกินเกือบหมดเลยต้องระงับการผลิตไปแล้วครับเพราะปริมาณการสั่งซื้อไม่มากพอไม่คุ้มต้นทุนถ้าเทียบกับเวลาในการจำหน่าย

ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่บอกว่าใช้สารซูคราโลสเพิ่มความหวานคุณแพรต้องอาศัยดูยี่ห้อว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือหรือไม่แล้วค่อยตัดสินใจซื้อมาบริโภค มิฉะนั้นอาจได้ซูคราโลสปลอมถึงแม้ทานแล้วจะไม่อ้วนแต่ก็ทำให้เสียสุขภาพโดยไม่รู้ตัวในระยะยาว ผมว่าเรื่องซูคราโลสในเมืองไทยยังใหม่เกินไปสำหับผลิตอาหารสุขภาพเพื่อจำหน่ายทั่วไปเพราะคนไทยต้องเรียนรู้และรับผิดชอบในเรื่องคุณธรรมกันอีกมากเพราะเกรงว่าผู้บริโภคจะบริโภคแอสปาแตมกันเสียมากกว่าทั้งๆท่โฆษณาว่าเป็นซูคราโลสครับ....ขอขอบคุณ